อดีตหนุ่มโรงงานผู้ผันตัวสู่เจ้าของธุรกิจค้าอาหารสัตว์ และโรงงานแปรรูปสุกรมาตรฐาน มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ในจังหวัดศรีษะเกษ และยังคงเดินหน้ารุกตลาดค้าหมูสดในนาม “มนปรียาหมูสด” หวังปั้นแบรนด์ครองใจผู้บริโภคเนื้อสุกรคุณภาพ สด สะอาด และปลอดภัย ครอบคลุมพื้นที่อีสานใต้
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ คุณคมกริช คล้ายแจ้ง หรือคุณหนุ่ย กรรมการผู้จัดการบริษัท คล้ายแจ้งนำโชค จำกัด เลขที่ 55 หมู่ 1 บ้านหนองโปร่ง ต.โคกหล่าม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เล่าถึงชีวิตก่อนเริ่มต้นธุรกิจว่า ตนทำงานเป็นลูกจ้างมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง กระเป๋ารถเมล์และพนักงานโรงงาน กระทั่งปีพ.ศ. 2553 ได้รู้จักกับธุรกิจขายอาหารสัตว์จากการแนะนำของคุณธวัชชัย บัวจันทร์ หรือคุณนก โดยเปิดเป็นร้านจำหน่ายอาหารสุกร ภายใต้ชื่อ “คิว อาหารสัตว์” ในอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
“ครั้งแรกที่เข้ามาในธุรกิจค้าอาหารสัตว์และได้คลุกคลีกับวงการปศุสัตว์ ถือว่าเป็นงานใหม่มากๆ ซึ่งช่วงแรกก็ขายไม่ได้ เพราะยังไม่รู้จักตลาด และการดูแลกลุ่มลูกค้า จึงเริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการขาย โดยเริ่มจากการลงพื้นที่ เพื่อแนะนำสินค้าแก่เกษตรกรที่เลี้ยงหมู พร้อมทั้งศึกษาหาความรู้ด้านการดูแลสัตว์เพิ่มเติม ทั้งการเข้าอบรมและศึกษาจากเอกสารต่างๆ จนเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว”
ปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว ซึ่งธุรกิจจำหน่ายอาหารสัตว์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการวางระบบที่ดีและแผนรองรับผลผลิตของเกษตรกร เพื่อความมั่นคงของผู้เลี้ยงและธุรกิจ อีกทั้งมองว่าเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว
“การขายอาหารสัตว์ไม่ใช่มีแค่งานขายอย่างเดียว จะต้องมีบริการหลังการขายด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว การดูแลรักษา หรือแม้กระทั่งการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่ใช้อาหารของทางบริษัท ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจด้านการตลาดให้แก่ลูกค้าอีกด้วย”
ด้วยเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ทำอะไรก็จะทำให้สุด จึงเข้าใจปัญหาที่เกษตรกรส่วนใหญ่พบเจอเป็นอย่างดี นั่นก็คือปัญหาขาดแหล่งรับซื้อผลผลิตที่ชัดเจน อีกทั้งภาวะหมูล้นตลาดไม่มีที่ระบาย ขายไม่ได้ราคา เป็นต้น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มักเป็นเกษตรกรรายย่อยที่ขาดอำนาจในการต่อรองกับพ่อค้า ถูกเอารัดเอาเปรียบด้านราคา บางรายแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหวเลิกเลี้ยงไปก็มี ปัญหาดังกล่าวจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างโรงงานแปรรูปสุกรมาตรฐาน “คล้ายแจ้งนำโชค” ที่มีมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท อัตราการผลิตอยู่ที่ 200 ตัว/วัน
ปัจจุบัน คล้ายแจ้งนำโชค ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจากกรมปศุสัตว์ พร้อมทั้งการดำเนินการขอหนังสือรับรองมาตรฐาน GMP จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้
กระบวนการเชือดและการชำแหละที่ได้มาตรฐาน ของ คล้ายแจ้งนำโชค มีขั้นตอนดังนี้
– ขั้นตอนแรกจะต้องดูวัตถุดิบหรือสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มของลูกค้าว่ามีขนาด หรือน้ำหนักผ่านเกณฑ์ของโรงงานที่ได้กำหนดไว้แล้วหรือไม่
– ขั้นตอนต่อไปจะนัดวันและเวลาจับที่แน่นอน โดยก่อนจับต้องงดอาหาร 12 ชั่วโมง หลังจากขนส่งจะต้องพักสุกรไว้ประมาณ 4- 5 ชั่วโมง เพื่อลดความเครียด แต่ยังคงงดอาหารเช่นเคย
ส่วนพื้นที่การทำงานจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือโซนสกปรก และโซนสะอาด
โซนสกปรก คือ บริเวณพื้นที่ที่รับหมูเข้ามาเพื่อทำการเชือด โดยการทำให้สลบ ขูดขน ตัดคอ และทำความสะอาดเพื่อส่งต่อในพื้นที่ต่อไปโดยใช้สายพานลำเลียง
โซนสะอาด เป็นพื้นที่ที่ชิ้นส่วนทุกชิ้นจะไม่สัมผัสกับพื้น ล้างด้วยน้ำสะอาด และลำเลียงด้วยระบบคอนเวเยอร์ หรือการแขวนบนอุปกรณ์ลำเลียงสินค้า จนกระทั่งถึงกระบวนการตัดแต่งชิ้นเนื้อตามออเดอร์ลูกค้า
ขณะเดียวกันน้ำที่ใช้ในโรงงานจะต้องได้รับมาตรฐานเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้บริษัทฯ ได้รับอนุญาตจากกรมทรัพยากรธรณีให้ใช้น้ำบาดาลได้ โดยผ่านกระบวนการกรองเรซิน คาร์บอน แมงกานิส จากนั้นนำไปพักไว้และผ่านกระบวนการกรองระบบอาร์โอ ยูวี ซึ่งคุณภาพน้ำที่ได้จะเป็นมาตรฐานเดียวกันกับน้ำดื่ม
ส่วนการบริหารจัดการของเสียภายในโรงงาน จะติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย โดยมีบ่อบำบัดจำนวน 3 บ่อ ได้แก่ บ่อแยกกากบ่อใหญ่จำนวน 1 บ่อ และบ่อพักจำนวน 2 บ่อ เมื่อได้น้ำสะอาดในระดับหนึ่งก็จะสามารถนำไปใช้ในภาคการเกษตรได้ เช่น การรดน้ำต้นไม้ในโรงงาน และสวนกล้วย
ด้านแผนพัฒนาที่ทำให้กลุ่มลูกค้าเกิดความพึงพอใจและความเชื่อมั่นสอดคล้องกับแผนงานของบริษัทฯ เพื่อให้กิจการดำเนินการไปอย่างมั่นคง ทั้งในรูปแบบการส่งเสริมเกษตรกร จัดหาพันธุ์สัตว์ที่เหมาะสม ดูแลและให้คำปรึกษาระหว่างการเลี้ยง บริการจัดส่งสินค้า ตลอดจนการรับซื้อสุกรจากเกษตรกรเข้าโรงงานแปรรูปในราคาเป็นธรรม จำหน่ายในร้านที่ได้มาตรฐาน สะดวก สะอาดและปลอดภัย รวมถึงมาตรฐานต่างๆ
“การที่บริษัทจะติดต่อกับลูกค้าจะต้องมีมาตรฐานที่ได้สร้างข้อตกลงกันไว้แล้วว่า เกษตรกรที่ใช้อาหารของทางบริษัท จะได้รับการรับซื้อผลผลิตคืน โดยรับประกันว่าเกษตรกรจะต้องได้ราคาไม่ต่ำกว่า 50 บาท/กก. หรือตามกลไกตลาด หากหมูราคาดีขึ้นเกษตรกรสามารถขายได้ในราคาที่ดีขึ้นด้วย แต่หากราคาตกต่ำเกษตรกรก็จะได้ในราคาที่ไม่ต่ำกว่า 50 บาท/กก. เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพที่มั่นคง”
รุกตลาดด้วย “มนปรียาหมูสด”
นอกจากแผนพัฒนาที่ทำร่วมกับกลุ่มเกษตรกรแล้วทางบริษัทฯ ได้ต่อยอดธุรกิจค้าเนื้อสุกรสด ภายใต้ชื่อว่า “มนปรียาหมูสด” เพื่อจำหน่ายเนื้อสุกรสด สะอาด และปลอดภัย ในราคาย่อมเยาโดยเน้นกลุ่มผู้บริโภคเนื้อสุกรในท้องที่เป็นหลัก
จุดเด่นของ “มนปรียาหมูสด” คือ จำหน่ายเนื้อสุกรสด ใหม่ สะอาดและปลอดภัย มีการแพ็คชิ้นส่วนขนาดต่างๆ และการรักษาอุณหภูมิอย่างดี จำหน่ายทั้งราคาขายปลีกและส่ง ซึ่งชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีจำหน่าย อาทิเช่น ส่วนหัว ขา เครื่องใน เนื้อสัน เนื้อสะโพก เนื้อแดง เนื้อสไลด์ และเนื้อหมูสามชั้น เป็นต้น มีพนักงานบริการหั่นหรือบดให้ฟรี
อนาคตบริษัทฯ วางเป้าหมายไว้ว่าจะขยายฐานลูกค้าทั้งธุรกิจอาหารสัตว์และมนปรียา เขียงหมู ให้ครอบคลุม 6 จังหวัด เช่น ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ยโสธร มหาสารคาม และขอนแก่น มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราการผลิตและการขยายตัวของธุรกิจ
“อย่าหยุดทำ!!! ไม่ต้องรีบทำให้เสร็จภายในวันนี้ ทำไปเรื่อยๆ แต่อย่าหยุดหรือย่ำอยู่กับที่ เพราะบางครั้งรีบเกินไปงานที่ทำก็ไม่ประสบความสำเร็จ ก้าวช้าๆ แต่อย่าหยุดที่จะก้าว” คุณคมกริช ให้แง่คิดทิ้งท้าย
ขอขอบคุณ
คุณคมกริช คล้ายแจ้ง กรรมการผู้จัดการบริษัท คล้ายแจ้งนำโชค จำกัด และ คิว อาหารสัตว์
สำหรับผู้ที่สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายอาหารสัตว์ , ทำฟาร์มเลี้ยงสุกรขุน หรือต้องการเนื้อหมูคุณภาพ ทั้งเป็นตัว หมูซีก หรือชิ้นส่วนต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ คุณคมกริช คล้ายแจ้ง กรรมการผู้จัดการบริษัท คล้ายแจ้งนำโชค จำกัด
โทร. : 094-269-7727 , 094-469-9854
Clip Review : มนปรียาเขียงหม