ข่าว (News) ข่าวประชาสัมพันธ์ (Newsletter) วิชาการปศุสัตว์ (Livestock Article) สัตว์เคี้ยวเอื้อง (Ruminant)

ผลเสีย “การลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์จากต่างประเทศ” มีอะไรบ้าง

ช่วงนี้ ข่าว “การลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์จากต่างประเทศ” มีมาก มีบ่อย ทั้งโค หมู ไก่ และสัตว์น้ำ เราๆ ทั้งหลายที่ส่วนใหญ่เป็น “ผู้บริโภค” และบางท่านก็เป็น “ผู้ผลิต” มาพิจารณาร่วมกันว่า การลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์จากต่างประเทศ ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

1. ความปลอดภัยของอาหาร : เนื้อสัตว์ที่ลักลอบนำเข้ามักไม่ผ่านการตรวจสอบและทดสอบสิ่งปนเปื้อน โรค หรือสารเคมีตกค้างอย่างเหมาะสม สิ่งนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อสุขภาพของประชาชน สามารถนำไปสู่การเจ็บป่วย และการระบาดของโรคที่เกิดจากอาหารได้

2. การแพร่กระจายของโรค : เนื้อสัตว์นำเข้าอย่างผิดกฎหมายอาจนำโรคจากสัตว์ เช่น โรคปากและเท้าเปื่อย หรือ โรคอหิวาต์สุกรแอฟริกัน มาสู่ประชากรปศุสัตว์ในประเทศได้ สิ่งนี้สามารถส่งผลร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมการเกษตรและการจัดหาอาหาร

3. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ : การลักลอบขนสินค้าบ่อนทำลายอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ที่ถูกกฎหมาย และที่ถูกควบคุม ผู้ผลิตและธุรกิจที่ถูกกฎหมายประสบความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมกับผลิตภัณฑ์ที่ลักลอบนำเข้าในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งหลีกเลี่ยงภาษี ภาษีศุลกากร และ มาตรฐานการควบคุมคุณภาพ

4. การสูญเสียรายได้ของรัฐบาล : การลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ส่งผลให้รัฐบาลสูญเสียรายได้จากภาษี รายได้นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาบริการและโครงการสาธารณะของประเทศไทย

5. การบิดเบือนตลาด : การมีอยู่ของเนื้อสัตว์ที่ลักลอบนำเข้าบิดเบือนการเปลี่ยนแปลงของตลาดภายในประเทศ โดยทำให้ตลาดเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่ถูกกว่า และไม่ได้รับการควบคุม สิ่งนี้อาจทำให้ผู้ผลิตที่ถูกกฎหมายแข่งขันได้ยาก

6. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม : การลักลอบขนสินค้ามักเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติที่ไม่ยั่งยืน เช่น การผลิต การล่า การตกปลา หรือการรวบรวมอย่างผิดกฎหมาย สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติมากเกินไปและเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ

7. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง : การมีอยู่ของเนื้อสัตว์ที่ลักลอบนำเข้าทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของอาหาร ทำให้ผู้บริโภคเกิดความไม่ไว้วางใจทั้งสินค้าที่ผลิตได้ภายในประเทศและสินค้านำเข้า

8. ความผิดทางอาญา : การลักลอบขนเนื้อสัตว์มักเชื่อมโยงกับเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม เครือข่ายเหล่านี้สามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น การฟอกเงิน และ การค้ามนุษย์

9. แนวทางปฏิบัติด้านแรงงานที่ไม่เป็นธรรม : การค้าเนื้อสัตว์ที่ผิดกฎหมายอาจเกี่ยวข้องกับหลักปฏิบัติด้านแรงงานที่แสวงประโยชน์ รวมถึงสภาพการทำงานที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเกณฑ์และไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขนของและแปรรูป

10. ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น : การระบาดของโรคที่เกิดจากอาหารซึ่งเชื่อมโยงกับเนื้อสัตว์ที่ลักลอบนำเข้าอาจทำให้ระบบการรักษาพยาบาลมีภาระและความท้าทายมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สูญเสียค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น และบางกรณีอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

เรื่องเหล่านี้ ไม่ไกลตัวพวกเราเลยนะครับ … ทั้งสุขภาพ สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง ปลอดภัยในเรื่องต่างๆ

ในแง่ “การป้องกันการลักลอบขนเนื้อสัตว์นำเข้า” นั้น เราอาจจำเป็นต้องใช้หลายแนวทางที่ผสมผสานกัน ทั้งมาตรการทางกฎหมาย กฎระเบียบ และการบังคับใช้เข้าด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น

– เสริมสร้างความเข้มข้นในการควบคุมชายแดน : เพิ่มการเฝ้าระวังและการรักษาความปลอดภัยที่ชายแดน ท่าเรือ และทางเข้าออก เพื่อตรวจจับและยับยั้งการขนส่งเนื้อสัตว์ที่ผิดกฎหมาย

– ปรับปรุงการตรวจสอบ : ดำเนินการตรวจสอบยานพาหนะ สินค้า และการขนส่งอย่างเข้มงวด เพื่อระบุและยึดผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่ลักลอบนำเข้า

– กฎหมายและข้อบังคับ : บังคับใช้กฎระเบียบและบทลงโทษที่เข้มงวดสำหรับการค้าเนื้อสัตว์ที่ผิดกฎหมาย ใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับเพื่อติดตามแหล่งกำเนิดและการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์

– ความร่วมมือระหว่างประเทศ : ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและองค์กรระหว่างประเทศเพื่อแบ่งปันข้อมูล ข่าวกรอง และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับการลักลอบขนเนื้อสัตว์

– การตระหนักรู้ของสาธารณชน : ให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับความเสี่ยงในการซื้อเนื้อสัตว์ที่ลักลอบนำเข้า และส่งเสริมประโยชน์ของการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มาจากแหล่งที่มาและตรวจสอบอย่างถูกกฎหมาย

– สนับสนุนผู้ผลิตที่ถูกกฎหมาย : ให้การสนับสนุนผู้ผลิตเนื้อสัตว์ที่ถูกกฎหมาย รวมถึงการอุดหนุน การฝึกอบรม และการเข้าถึงตลาด เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนมีการแข่งขันมากขึ้น

– เทคโนโลยี : ใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบติดตามแบบดิจิทัล บล็อกเชน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการตรวจสอบย้อนกลับและการรับรองความถูกต้องของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์

– การบังคับใช้กฎหมาย : เสริมสร้างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานเฉพาะกิจที่อุทิศตน เพื่อต่อสู้กับการลักลอบขนเนื้อสัตว์ จัดให้มีการฝึกอบรมและทรัพยากรเพื่อการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพ (ข้อนี้สำคัญที่สุด หากการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอ หรือ เลือกปฏิบัติ การป้องกันการลักลอบขนเนื้อสัตว์จะไม่สัมฤทธิ์ผล)

– ความร่วมมือกับอุตสาหกรรม : หน่วยงานราชการจำเป็นต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพื่อสร้างแนวทางปฏิบัติในการกำกับดูแลตนเอง สนับสนุนให้สมาชิกรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย และ บังคับใช้กฎหมาย

– มีส่วนร่วมกับชุมชน : ให้ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการป้องกันการลักลอบขนของโดยสนับสนุนการรายงานกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

– การวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูล : รวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่องและดำเนินการวิจัยเพื่อระบุแนวโน้มและจุดสำคัญในการลักลอบขนเนื้อสัตว์ ช่วยให้สามารถบังคับใช้ได้อย่างตรงเป้าหมาย

– ช่องทางการทูต : มีส่วนร่วมในความพยายามทางการทูต เพื่อเจรจาข้อตกลงและความร่วมมือกับประเทศต้นทางและทางผ่านสำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์

การป้องกันการลักลอบขนเนื้อสัตว์ ถือ เป็นความท้าทายที่ซับซ้อน ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม และสาธารณชน รัฐบาลไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปในวิธีการ และเส้นทางการลักลอบสินค้า รวมทั้งการขนคนเข้าเมือง

จริงๆ ว่าไปแล้ว ก็อาจเป็นเรื่อง Demand (ความต้องการสินค้าราคาถูก) และ Supply แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า “คอรัปชั่น” น่าจะยังคงเป็นปัญหาหลัก พอๆ กับความเป็น “ชาตินิยม” หรือ “นิยมในความเป็นชาติ”​ ของคนไทยที่ดูเหมือนจะลดลงทุกวัน

ร่วมด้วยช่วยกัน ดูแลสอดส่อง และสนับสนุนการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ผลิตโดยคนไทย และเนื้อสัตว์บางชนิดที่นำเข้าอย่างถูกกฏหมาย (เพราะคนไทยยังผลิตไม่ได้) กันนะครับ

ขอขอบคุณ :

รศ.ดร.ศกร คุณวุฒิฤทธิรณ

ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

Pasusart News
No.1 Livestock Online Magazine in Thailand
https://pasusart.com