สมาคมสัตวแพทย์ฯ TRVA ยันบริโภคนม-เนื้อสัตว์จากโค กระบือ จากแหล่งที่มาชัดเจนได้มาตรฐาน พร้อมเน้นย้ำอย่าตกเป็นเป้าตื่นตระหนกโดยไร้ข้อมูล ยิ่งซ้ำเติมเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในภาคปศุสัตว์
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 สมาคมสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มสัตว์เคี้ยวเอื้อง TRVA แถลงการณ์ เรื่อง ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์น้ำนมและเนื้อสัตว์จากโค–กระบือ ภายใต้สถานการณ์โรคแอนแทรกซ์
โดยระบุว่า ตามที่มีรายงานการพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ในบางพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความกังวล และความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับความปลอดภัยของการบริโภคผลิตภัณฑ์จากโค–กระบือ อันอาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและห่วงโซ่การผลิต สมาคมสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มสัตว์เคี้ยวเอื้อง ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงทางวิชาการเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค และลดผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้องที่ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
1. น้ำนมจากโค–กระบือ สุขภาพดีที่ไม่แสดงอาการของโรค และมาจากฟาร์มที่ผ่านมาตรฐานกรมปศุสัตว์ จะได้รับการตรวจสอบคุณภาพจากศูนย์รับน้ำนมดิบ และหากผ่านกระบวนการพาสเจอไรซ์หรือสเตอริไลซ์อย่างเหมาะสม จะสามารถทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง Bacillus anthracis
2. เนื้อสัตว์จากฟาร์มที่ได้รับการรับรอง และผ่านโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีการตรวจสอบโดยสัตวแพทย์อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ จะมีความปลอดภัยสูง โดย Bacillus anthracis ในรูปแบบ vegetative cell สามารถถูกทำลายได้ที่อุณหภูมิ ≥70°C ภายในเวลา 1 นาที ณ แกนกลางของชิ้นเนื้อ ส่วนสปอร์ของเชื้อ ซึ่งทนทานกว่า พบเฉพาะในกรณีที่สัตว์ป่วยหนักและไม่ได้รับการควบคุมโดยสัตวแพทย์ ซึ่งไม่มีโอกาสเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารภายใต้ระบบที่มีมาตรฐาน
3. ประเทศไทยมีระบบควบคุมโรคสัตว์ที่เข้มแข็ง ทั้งในด้านการเฝ้าระวัง การสอบสวนโรค การควบคุมพื้นที่เสี่ยง ตลอดจนการจัดการฟาร์มและการฆ่าสัตว์ ภายใต้การกำกับของกรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์ภาคสนามทั่วประเทศ
สมาคมฯ ขอยืนยันว่า การบริโภคนมและเนื้อสัตว์จากโค–กระบือที่มาจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน ยังคงมีความปลอดภัยตามหลักวิชาการระหว่างประเทศ และไม่ควรตกเป็นเป้าความตื่นตระหนกโดยไร้ข้อมูล ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในภาคปศุสัตว์
สมาคมฯ พร้อมสนับสนุนการให้ข้อมูลวิชาการที่ถูกต้อง และจะยืนหยัดเคียงข้างเกษตรกรและผู้บริโภค เพื่อร่วมกันรักษาความมั่นคงด้านอาหารของประเทศอย่างยั่งยืน
⸻
อ้างอิง:
• Turnbull, P. C. B. (2008). Anthrax in Humans and Animals (4th ed.). WHO.
• World Organisation for Animal Health (WOAH). (2023). Anthrax. In Terrestrial Manual.
• FAO & WHO. (2002). Risk assessments of anthrax in food.