รัฐบาลปล่อยให้โรค ‘อหิวาต์แอฟริกาในสุกร’ ระบาดมา 3 ปี ต้นตอปัญหา “หมูแพง” เพื่อไทย ร้องเร่งแก้ นิ่งเฉยเท่ากับปล่อยเกษตรกรล้มละลาย เปิดทางนายทุนยักษ์ใหญ่หาประโยชน์
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2565 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา และประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย สกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย แถลงถึงปัญหาเนื้อหมูราคาแพง ซึ่งปัจจุบันกิโลกรัมละ 230 บาท และอาจพุ่งสูงไปถึงกิโลกรัมละ 250 บาท
วิสุทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาเนื้อหมูราคาพุ่งขึ้นสูงในวันนี้ มีปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ 1. ปัญหาราคาต้นทุนอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นสูง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นตลอดเวลาจนทำให้เกิดปัญหาขาดทุนสะสมมาถึงปัจจุบัน และ 2. เกิดโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever : ASF) ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่แพร่กระจายในประเทศไทยมา 3 ปีแล้วทำให้หมูล้มตายจำนวนมาก ทางปศุสัตว์จังหวัดได้สั่งให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ทำลายหมูทิ้งทั้งหมดพร้อมไม่ให้เลี้ยงหมูรอบใหม่ ในขณะเดียวกัน ภาครัฐก็ไม่ได้สั่งหรือนำเข้าวัคซีนมาฉีดป้องกันโรค จึงทำให้หมูในประเทศลดจำนวนลงและขาดแคลน ซึ่งส่งผลให้บริษัทยักษ์ใหญ่ได้ประโยชน์ แต่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต้องเป็นหนี้ล้มละลายกันหมด
“เมืองไทยมีปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริการะบาดมา 3 ปีแล้ว แต่รัฐบาลไม่ยอมรับความจริง เหมือนช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด ทำไมต่างประเทศรู้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กลับไม่รู้เรื่อง ซึ่งเป็นเพราะรัฐบาลไม่เคยใส่ใจปัญหา ไม่รู้ว่าประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างหนักจนแทบล้มละลาย จนวันนี้เสมือนว่ารัฐบาลไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอหิวาต์แอฟริกาอย่างไร และไม่รู้จะแก้ไขปัญหาหมูแพงได้อย่างไร รวมไปถึงไม่รู้ว่าจะต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียต่อพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูอย่างไร” ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทยกล่าว
ขณะที่ สกุณา สาระนันท์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อหมูไปต่างประเทศไม่ต่ำกว่าปีละ 2 หมื่นล้านบาท แต่องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (World Organization for Animal Health หรือ Office International des Epizooties; OIE) ได้ตรวจพบเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากประเทศไทยตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เกษตรกรไทยผู้เลี้ยงหมูได้รับผลกระทบจากการทำลายหมู โดยไม่มีการชดเชยเยียวยา จนทำให้ผู้ที่กู้ยืมเงินมาเลี้ยงหมูถูกสถาบันการเงินฟ้องร้องจำนวนมาก รัฐบาลควรรีบเข้าไปช่วยหาทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูโดยด่วนที่สุด