แม้ว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยจะยังไม่มีการรายงานพบการระบาดของ “โรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์” หรือ โรค ASF ในสุกร ที่ชาวหมูรู้จักกัน การป้องกันโรคดังกล่าว เกษตรกรควรทำต่อเนื่อง “อย่าประมาท การ์ดอย่าตก” เพราะหากปล่อยให้มีการปนเปื้อนเข้ามาก็ยากที่จะกำจัดออก (กรณีนี้ฝังทำลายเท่านั้น) และยากที่จะกลับมาเลี้ยงใหม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น เนื่องจากเชื้อมีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมสูง ไม่มีวัคซีนป้องกันและยาในการรักษา
ล่าสุดกรมปศุสัตว์ออกมาตรการเข้ม เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์ (ASF) โดยกำหนดมาตรการ 7 ด้าน ดังนี้
1. เร่งรัดติดตามการขึ้นทะเบียนผู้รวบรวมสุกร หรือพ่อค้าคนกลาง (broker) ในแต่ละจังหวัดให้เสร็จโดยเร็ว
2. ปรับปรุงมาตรการและหลักเกณฑ์การเคลื่อนย้ายให้ง่ายต่อการปฏิบัติ และให้มีประสิทธิภาพต่อการป้องกันโรค โดยผ่านคณะอนุกรรมการวิชาการ ให้ออกมาตรการโดยเร็วที่สุด
3. ชี้แจงมาตรการและหลักเกณฑ์การเคลื่อนย้ายสุกรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
4. กองสารวัตรและกักกัน ให้เข้มงวดการตรวจสอบสุกร และผลิตภัณฑ์สุกรที่จะส่งออกไปต่างประเทศ โดยให้ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่าง ณ ด่านขาออก หากพบสัตว์ผิดปกติให้ดำเนินการตามที่กรมปศุสัตว์กำหนดอย่างเข้มงวด
5. สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการพิจารณาการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกัน ASF
6. สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์รวบรวมและแจ้งรายชื่อโรงฆ่าสัตว์ที่สามารถรองรับการบริหารจัดการ การดำเนินการลดความเสี่ยงต่อโรคภายในจังหวัด ส่งให้ปศุสัตว์จังหวัดดำเนินการ
7. บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด หากพบการกระทำผิด แจ้งข้อมูลที่แอปพลิเคชั่น DLD 4.0 หรือสายตรงผู้บริหารกรมโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ขอให้เฝ้าระวังและป้องกันโรคอย่างเข้มงวด หากพบสุกรป่วยหรือตายผิดปกติให้แจ้งปศุสัตว์อำเภอ จังหวัด หรือสำนักควบคุมป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ สายด่วน Call Center 063-225-6888