ข่าว (News) สุกร (Pig)

คาใจ “หมูเถื่อน” แช่อยู่ท่าเรือนานกว่าปี ไม่มีใครรู้

จากการจัดแถลงผลงานการจับกุมสินค้าผิดกฎหมายของกรมศุลกากรในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นเป็น “หมูเถื่อน” ที่คนไทยนิยมบริโภคมากเป็นอันดับ 1 จำนวนที่จับกุมไม่ได้มากมายที่เปิดเผยได้แค่ 4.5 ล้านกิโลกรัม มูลค่า 250 ล้านบาท จากคอนเทนเนอร์ 161 ตู้ ที่ยังตกค้างที่ท่าเรือทั้งหมด 220 ตู้ ยิ่งตอกย้ำความน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก เพราะ “หมูเถื่อน” ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐาน โรคระบาด และสารปนเปื้อน กระจายอยู่ทั่วไทย ขอถามรัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพรรคการเมืองที่กำลังสู้ศึกเลือกตั้งอยู่ในขณะนี้ ว่า ความปลอดภัยของผู้บริโภคอยู่ตรงไหน และภาครัฐจะรับผิดชอบอย่างไร?

ขอตั้งข้อสังเกต 5 ข้อ ให้สังคมช่วยพิจารณาในประเด็นที่ยังมีความเคลือบแคลง คือ 

1. หมูเถื่อน ผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้อย่างไร เพราะเนื้อสุกรเป็นสินค้าห้ามนำเข้า ที่ทั้งการท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์ สามารถผนึกกำลังกันสกัดกั้นการเข้ามาได้ตั้งแต่เรือสินค้ายังอยู่ในทะเล ที่สำคัญผู้นำเข้าต้องแจ้งให้การท่าเรือฯ รับทราบภายใน 24 ชั่วโมงก่อนสินค้าถึงท่าเรือ และต้องแจ้งให้กรมศุลฯ รับทราบเช่นเดียวกันเพื่อตรวจสอบ

2. หมูเถื่อนที่แอบเข้ามาได้และถูกจับกุมระหว่างการขนส่งภายนอกท่าเรือ เล็ดลอดผ่านพิธีทางศุลกากรและเครื่องสแกนด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงตรวจปล่อยออกไปได้อย่างไร จุดนี้ให้สำแดงเท็จแค่ไหนไม่น่ารอดเครื่องสแกนได้ เพราะประสิทธิภาพของเครื่องสูงมากขนาดขนหมูเส้นเล็กๆ ก็เห็นได้ การตรวจปล่อยสินค้ามีขั้นตอนที่ตรวจสอบย้อนกลับได้หรือไม่?

3. หมูเถื่อนที่ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบังเป็นเวลานาน 7- 8 เดือน (เกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด) เหตุใดหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจึงไม่เรียกบริษัทผู้นำเข้ามาชี้แจง และเปิดตู้สินค้าเพื่อตรวจสอบ แต่กลับปล่อยให้ผู้นำทิ้งสินค้าได้นานเกินกำหนด

4. หมูเถื่อนที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะล็อตใหญ่ที่สุด 4.5 ล้านกิโลกรัม 161 ตู้ ถูกส่งให้กรมปศุสัตว์ทำลายเพียง 13 ตู้เท่านั้น อีก 148 ตู้ อยู่ที่ไหน ใครเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ หากหลุดรอดออกไปด้านนอกมูลค่าที่มาจากต้นทาง 40-50 บาทต่อกิโลกรัม จะราคาเพิ่มเป็น 100 บาท ทันที ผลประโยชน์ตกที่ใคร?

5. หมูเถื่อนที่แพร่หลายอยู่ในไทยขณะนี้ เกิดจากการทำงานที่มี “ช่องโหว่” จากหน่วยงานใดของภาครัฐ? ในการแถลงข่าวของกรมศุลกากรเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 ต่อข้อถามที่ว่า ตอนนี้มีหมูส่วนหนึ่งที่เข้ามาแล้วอยู่ตามห้องเย็น เช็คได้หรือไม่ว่าเป็น “หมูเถื่อน”? ได้รับคำตอบจากกรมศุลกากร ว่า ตรงนี้มีจับนะแต่ประเด็นคือเมื่อออกไปนอกเขตท่าฯ จะเป็นเรื่องของหลายหน่วยงาน ต้องไปขอหมายค้นที่สถานประกอบการเขา ซึ่งต้องมีข้อมูลไปขอหมายศาล แต่ที่ท่าเรือฯ คือ 4.5 ล้านกิโลกรัม จะส่งของกลางไปให้กรมปศุสัตว์ ข้อสังเกต คือ หมูเถื่อน “หายตัวออกไปจากท่าเรือ” ไปอยู่ตามห้องเย็นได้อย่าง?

หมูเถื่อนที่ค้างคาอยู่ในไทย ไล่จับมานานกว่า 1 ปี แต่ยังไม่จนมุม ชี้ให้เห็นถึงทัศนคติและการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ว่าให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตคนไทยในระดับใด และตีค่าความปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหารของคนไทยกับกระเป๋าแบรนด์เนม คนไทยต้องการหมูคุณภาพดีปลอดภัย ปราศจากสารปนเปื้อนต่างๆ เพื่อสุขภาพที่ดี ไม่มีกระเป๋าแบรนด์เนมอยู่ได้ แต่ไม่ได้กินหมูอยู่ยาก ทุกภาคส่วนจึงควรปราบปรามอย่างเคร่งครัดและรัดกุมให้ได้ “ตัวการ” ที่แท้จริงเสียที

สมิง วงศ์รามัญ ที่ปรึกษาอิสระด้านปศุสัตว์

Pasusart News
No.1 Livestock Online Magazine in Thailand
https://pasusart.com