“นม” ถือเป็นแหล่งโปรตีนที่หาซื้อง่ายและสะดวกที่สุด แถมมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นอาชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ทุกท่านทราบกันดีว่าทุกอาชีพได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ภาคเกษตรอย่างการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรไทย
เมื่อ 7 เม.ย. 63 รศ.ดร.ศกร คุณวุฒิฤทธิรณ ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนักสัตวบาลดีเด่น สายวิชาการ ประจำปี 2561 ของสมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้โพสต์ข้อความที่น่าสนใจลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว Skorn Koonawootrittriron ระบุว่า
ถึง เพื่อน พี่ น้อง ลูกศิษย์ และ ผู้ที่รักนับถือ ทุกท่าน…ขอรบกวนและเชิญชวน “ทุกท่าน” ช่วยกัน “อุดหนุน” “นมสด” ที่ผลิตโดย “เกษตรกรไทย” (ไม่ว่าจะแบรนด์ใด ของใครก็ตาม) กันให้มากกว่า “ผลิตภัณฑ์นมนำเข้า” หรือที่มี “ส่วนผสมของนมผง” กันนะครับ
เบื้องต้น “นมสด พาสเจอร์ไรซ์” จะช่วยเกษตรกรได้มากที่สุด รองลงมา คือ “นมสด ยูเอสที” และ “นมสเตอร์ริไรส์”
ผลิตภัณฑ์นมอื่นๆ เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว เนย ชีส ฯลฯ นั้น ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด มีส่วนของนมผง บางส่วนผลิตในต่างประเทศ ซึ่งบางท่านอาจชื่นชอบ ส่วนบุคคล แต่ในช่วงนี้ ขอรบกวน ช่วย “คนไทย” “เกษตรกรไทย” และ “อุตสาหกรรมนมไทย” กันก่อนนะครับ
เรา “ผู้ซื้อ” มีทางเลือกเสมอ
ทำไมต้องช่วยกันอุดหนุน “นมสด” ของ “เกษตรกรไทย” มากขึ้นกว่าเดิมในช่วงนี้ น่ะหรือครับ ?
ประการแรก “โคนม” หลังคลอดลูกแล้ว เขาให้นมทุกวันต่อเนื่อง ราว 305 วัน จึงหยุดพักรีด เพื่อรอคลอดลูกครั้งถัดไป แล้วก็จะกลับมาให้น้ำนมได้อีกครั้ง
ประการที่สอง “โคนม” อยู่ๆ จะหยุดรีดนมทันทีไม่ได้ โดยเฉพาะตัวที่ให้นมมาก ถ้าหยุดทันทีจะเกิดอาการนมคัดเต้าและอักเสบ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของโค
ประการที่สาม “เกษตรกร” ในขณะนี้ กำลังหาทางลดปริมาณน้ำนมที่ผลิตได้มากลง การกระทำดังกล่าวต้องใช้เวลา และเขามีค่าใช้จ่ายจาก “อาหาร” และ “การจัดการฟาร์ม” ที่ต้องรักษาให้อยู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อสุขภาพของโค การขาดรายได้ในขณะที่ยังต้องเก็บเกี่ยวผลผลิต จึงเป็นปัญหาที่สำคัญ .. จริงๆ ปริมาณน้ำนมโคที่เราผลิตได้ไม่เพียงพ่อต่อความต้องการบริโภค ยิ่งถ้าหากแค่ ทุกคน หันมาบริโภค นมสด แทนผลิตภัณฑ์นมที่ทำจากนมผง หรือนำเข้า เกษตรกรก็จะได้รับผลกระทบต่อวิกฤตครั้งนี้ น้อยที่สุด
ประการที่สี่ “นมโค” ที่ผลิตโดยเกษตรกรไทย ส่วนมากถูกนำไปผูกกับ “โครงการนมโรงเรียน” ในช่วงนี้ รัฐบาลประกาศให้ทุกโรงเรียนในทุกระดับหยุดการเรียนการสอน โรงเรียนปิด นักเรียนอยู่บ้าน นมที่ผลิตได้ จึงไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์
ประการที่ห้า “นมโค” ถ้าโรงงานแปรรูปจำหน่ายนมและผลิตภัณฑ์นมไม่ได้ ก็จะปฏิเสธรับซื้อนมโคจากสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร หรือ เกษตรกร เพราะถ้ารับมาแล้ว น้ำนมโคคงถังรวมยังเยอะอยู่ ด้วยความสามารถในการจัดเก็บน้ำนมโคดิบจำกัด จึงรับซื้อนมเพิ่มไม่ได้ (ไม่มีที่เก็บ) เกษตรกรก็ได้รับผลกระทบเพราะมีน้ำนมผลิตออกมาทุกวัน ทางเดียวที่แก้ได้ คือ ให้นมปลายทางหมดไปจากการอุดหนุนของพวกเรา (ผู้บริโภค)
ประการที่หก “นมสด” ช่วยบำรุงสุขภาพมากกว่า “นมปรุงแต่ง” หรือ “ผลิตภัณฑ์นม” เพียงแค่เราเปลี่ยนจากการตัดสินใจซื้อ “นมและผลิตภัณฑ์นมเดิม ที่ส่วนผสมของนมผง และนำเข้า” มาเป็น “นมสด” ที่ผลิตโดยเกษตรกรไทย (พาวเจอร์ไรซ์ หรือ ยูเอชที รสจืด) แค่นี้ก็ช่วยกันได้มากแล้วครับ ที่เหลือ เดี๋ยวเราหาวิธีดีๆ ในการปรุงอาหารกัน
ยังมีเหตุผลดีๆ อื่นๆ อีกมากมาย ที่พวกเราสมควรช่วย “เกษตรกรไทย” ด้วยกันถ้ายัง “รัก” และ “นับถือกัน” ช่วยกันนะครับ … วันนี้เลย
#ไทยไม่ช่วยไทยแล้วจะขอให้ใครมาช่วยเรา
#นิยมไทย
#ทำทุกหน้าที่ให้ดีที่สุด
พวกเรามาดื่มนมจากเกษตรกรชาวโคนมที่ผลิตจากฟาร์มกันเถอะนะคะ!!!