ท่ามกลางเมืองหลวงในย่านดินแดงถือเป็นแหล่งชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตา และดำเนินชีวิตในแต่ละวันแตกต่างกันไป
ความเร่งรีบในแต่ละวันมีร้านขายไข่ไอเดียเก๋ “สไตล์วินเทจ” (Vintage) ที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เป็นที่สะดุดตาของผู้ที่สัญจรไปมาทั้งไทยและชาวต่างชาติ บ้างก็หยิบสมาร์ทโฟนคู่ใจถ่ายรูปตัวเองกับร้านขายไข่ พร้อมแชร์สู่โลกสังคมออนไลน์ ด้วยแคปชั่นชิคๆ โดนๆ สไตล์ Gen Z ประหนึ่งว่านี่คือ “อันซีนไทยแลนด์”
เจ้าของร้านขายไข่ไอเดียสุดแนว คือ คุณสถาพร ตรีเอกภาพพิทักษ์ หรือคุณตั้ม ที่ลูกค้ามักจะเรียกกันจนติดปากว่า “ร้านไข่คุณตั้ม” ตั้งอยู่ในซอยประชาสงเคราะห์ 2 (ซอยสุทธิพร) เขตดินแดง กรุงเทพฯ ห่างจากปากซอย 25 เมตร
คุณตั้มเล่าถึงชีวิตก่อนจะมาเปิดร้านขายไข่ให้ฟังว่า แต่เดิมที่บ้านประกอบธุรกิจจำหน่ายจักรเย็บผ้า หลังจากที่เรียนจบ (ช่างยนต์) จากวิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก กรุงเทพฯ ก็เข้ามาช่วยดูแลกิจการที่บ้าน แต่ยุคสมัยเปลี่ยน หลายๆ อย่างก็เปลี่ยนตามไปด้วย ธุรกิจจำหน่ายจักรเย็บผ้าก็เช่นกัน จากยอดจำหน่ายดีก็ลดลงเรื่อยๆ ทำให้อนาคตไม่แน่นอน
จึงมองหาธุรกิจอื่น เพื่อหาช่องทางใหม่ๆให้ตัวเอง อีกอย่างเป็นคนที่ชอบความท้าทายและศึกษาสิ่งใหม่ๆ เมื่อมีโอกาสไปบ้านเพื่อนที่ทำฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ที่บางลี่ (อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี) สังเกตเห็นพ่อค้ามาซื้อไข่ที่ฟาร์มจึงฉุกคิดได้ว่า “เจ้าสัวหลายท่านก็รวยจากการขายไข่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนบริโภค จนสร้างเป็นธุรกิจขนาดใหญ่และมั่นคงได้ ทำให้อยากลองขายไข่ดูบ้าง”
ขายไข่…เริ่มง่ายๆ
การเริ่มต้นขายไข่ของคุณตั้มง่ายมาก เพียงเข้าไปติดต่อร้านอาหารตามสั่งที่เขากินอยู่ประจำว่าแต่ละวันใช้ไข่จำนวนกี่แผง โดยยิงคำถามเชิงขายของว่า “ถ้าผมเอาไข่ไก่สดๆ จากฟาร์มมาขายให้จะซื้อไหม” พอได้ออเดอร์รวมประมาณ 30 แผง จึงไปรับไข่จากฟาร์มมาขาย
ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน จึงเกิดปัญหาและคำถามต่างๆ ว่าทำไมไข่ฟองไม่เท่ากัน บางฟองก็เล็ก บางฟองก็ใหญ่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากการที่ซื้อไข่คละมาจำหน่าย จึงแก้ปัญหาโดยการซื้อตราชั่งขนาดเล็กมานั่งชั่งทีละฟอง และซื้อเครื่องคัดไข่ในเวลาถัดมา
“ตอนนั้นยังไม่มีประสบการณ์การคัดไข่มาก่อน ไม่มีความรู้เรื่องไข่เบอร์ ก็เลยไปซื้อไข่เบอร์ตามท้องตลาดมาชั่งน้ำหนักและจดบันทึกไว้ อาศัยเรียนรู้และสอบถามจากคนงานในฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ด้วย”
พอเข้าไปรับไข่จากฟาร์มบ่อยขึ้นก็ถูกให้เหมา จากที่เคยขายวันละ 30 แผง กลายเป็นวันละ 120 แผง เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 เท่า ทำให้ตลาดที่มีไม่เพียงพอ
“ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดมาก เพราะยังหาตลาดไม่ได้ ต้องเอาไข่ไปเปิดท้ายขายข้างทาง ทั้งลูกน้องและลูกค้าร้านจักรเย็บผ้า ทุกคนที่พบเห็นถามเหมือนกันหมดว่า ทำไมเถ้าแก่ถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้ ซึ่งทุกคนมองว่าอาชีพขายไข่เป็นเรื่องที่น่าอาย”
เหตุการณ์นั้นทำให้เขารู้สึกว่าทำไมต้องอาย เพราะถ้าทำแล้วชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีบ้าน มีรถ อย่างทุกวันนี้ก็ได้จากการขายไข่ทั้งนั้น
“คลาสสิค” คือ จุดขาย
จากการสังเกตพฤติกรรมของคนทั่วไป โดยเฉพาะพ่อบ้าน นิสิตนักศึกษา ไม่กล้าที่จะซื้อไข่ไปบริโภค ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้คนเหล่านั้นสามารถเข้ามาซื้อได้อย่างไม่เขินอาย ดังนั้นจึงตกแต่งร้านใน “สไตล์วินเทจ” บุผนังร้านด้วยไม้พาเลท ใช้แสงไฟสีโทนอุ่น (ส้ม) ประดับร้านด้วยฟางข้าวอัดก้อน สร้างความแตกต่างที่ไม่เหมือนร้านขายไข่ทั่วไป จึงเป็นจุดดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาในร้าน ถ่ายรูป และเช็คอิน อีกทั้งยังใช้ฟางข้าวรองก้นถุงกันกระแทกแทนการใช้กระดาษจนเป็นเอกลักษณ์ของร้านไปในที่สุด
นอกจากการสร้างความแตกต่างและไข่คุณภาพแล้ว ยังมีการรับประกันที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าด้วย หากลูกค้าซื้อไข่จากทางร้านไป เจอไข่เน่าเสีย ทางร้านยินดีคืนให้ 10 เท่า (1:10) นั่นแสดงถึงความมั่นใจว่าไข่ที่ได้จากร้านเป็นไข่สดจริงๆ อีกอย่าง คือ ราคาที่มีความนิ่ง ไม่ขึ้นหรือดั๊มป์ราคาแข่งกับใคร การค้าขายควรยึดที่ตัวเองเป็นหลัก เพราะคนทำธุรกิจเหมือนกันควรมีจรรยาบรรณ
ส่วนการตั้งราคา เดิมจะอิงราคาตลาด แต่ประสบปัญหาพ่อค้าคนกลาง หรือพ่อค้ารายใหญ่มักดั๊มป์ราคาอยู่บ่อยครั้งจนทำให้กลไกตลาดแกว่ง ร้านเล็กๆ อย่างอาม่า อาแปะ จึงปรับตัวไม่ทันปิดร้านไปหลายราย เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันได้ ดังนั้นทางร้านจึงตั้งราคาขึ้นเอง และรับไข่จากฟาร์มมาจำนวนพอดี เน้นขายให้หมด เพราะคนจะมองว่าขายหมดทุกวัน สินค้ามีคุณภาพดี ไม่ขายปลีก เน้นขายยกแผง หรือขายยกถุง 10 ฟอง เพราะมีร้านชำที่รับไข่ไปขาย หากลูกค้าท่านใดจะซื้อปลีกก็จะแนะนำให้ไปซื้อที่ร้านขายของชำ เพื่อจะได้ไม่ไปแย่งลูกค้ากันด้วย ที่สำคัญมีบริการส่งฟรี และช่วงเทศกาลจะมีโปรโมชั่นแถมไข่ให้กับลูกค้าฟรี
อนาคตจะปรับปรุงร้านให้โดดเด่นมากขึ้น เพื่อต่อยอดธุรกิจขายไข่กระทะ จิบกาแฟร้อนๆ ท่ามกลางบรรยากาศการคัดไข่ แบบชิคๆ คูลๆ และจะเปิดสาขาเพิ่ม เพื่อรองรับลูกค้าย่านใจกลางเมือง
“อาชีพขายไข่เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน และไม่มีวัยรุ่นคนไหนมาเปิดร้านขายไข่สไตล์นี้ ซึ่งอะไรที่เราไม่เคย ต้องเรียนรู้ ต้องยอมเจ็บตัวหรือเสียค่าโง่ เราถึงจะเก่งขึ้น” คุณตั๊มทิ้งท้ายด้วยแง่คิด
ขอขอบคุณ : คุณสถาพร ตรีเอกภาพพิทักษ์ โทร.081-491-7663
SUPPORTED BY : คลิกเลยยย!!!