สมรภูมิการแข่งขันในอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของไทย ปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง และเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการบริโภคในประเทศและส่งออก ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ค้าที่มีมูลค่าการส่งออกเนื้อไก่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ดังนั้นทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างมุ่งเน้นตลาดส่งออกเป็นส่วนมาก ทำให้หลายคนอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าตลาดในประเทศเป็นอย่างไร ยังสามารถเติบโตได้อยู่หรือไม่
ท่ามกลางการแข่งขันตลาดในประเทศไม่แพ้กับสมรภูมิในต่างประเทศ ยังมี บริษัท สตาร์ ฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 33 หมู่ 8 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โรงเชือดไก่ที่ได้รับมาตรฐาน GMP , Halal (ฮาลาล) และกรมปศุสัตว์ มีอัตราการผลิตที่ 100,000 ตัว/วัน ยืนหยัดอยู่ในตลาดอย่างโดดเด่นและเติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมก้าวสู่เบอร์หนึ่งโรงเชือดไก่ในประเทศ ภายใต้การนำของคุณศักดิ์ดา มณีพรรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ผู้ที่ดำเนินธุรกิจโดยใช้หลักปรัชญาที่ว่า “ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน”
เบื้องหลังแห่งความสำเร็จนี้คุณศักดิ์ดา คิดและทำการบ้านอย่างหนัก วิเคราะห์คู่แข่งว่ามีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร วางยุทธศาสตร์และกลยุทธ์การตลาด ตลอดจนการรักษาฐานลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจมากที่สุด รวมถึงการพัฒนาคุณภาพของสินค้า ตรงตามความต้องการของลูกค้า เพราะเขาเชื่อว่ายังมี “โอกาส” โลดแล่นในตลาดนี้อย่างมาก ซึ่งวันนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าสิ่งที่เขาเลือกเป็นไปตามเป้าหมาย
เริ่มต้นด้วยทุน 8 ล้านบาท
บริษัท สตาร์ ฟู้ดส์ฯ เริ่มทำธุรกิจโรงเชือดไก่เนื้อเมื่อปีพ.ศ. 2557 โดยเริ่มจากเงินทุนเพียง 8 ล้านบาทเท่านั้น แบ่งเป็นสิ่งปลูกสร้าง 3 ล้านบาท 5 ล้านบาท ใช้สร้างเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงาน โดย 95% ใช้นวัตกรรมและความสามารถพิเศษของคุณศักดิ์ดา จึงทำให้โรงงานแปรรูปชิ้นส่วนไก่เนื้อแห่งนี้มีต้นทุนที่ต่ำกว่าโรงงานอื่นทั่วไป ซึ่งในตอนแรกนั้นมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,000-2,000 ตัว/วัน
“วันแรกที่เปิดโรงงานชำแหละไก่ประมาณ 2,000 ตัว/วัน ตอนนั้นมองว่าเป็นโรงงานขนาดเล็ก ลูกค้าก็ยังมีไม่มาก จนมีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนของบริษัท เนื่องจากการวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของคู่แข่ง บวกกับคุณภาพของสินค้าและการบริการ ได้รับสินค้าครบตามความต้องการ ทำให้เติบโตขึ้นอย่างทุกวันนี้”
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัท สตาร์ ฟู้ดส์ฯ มีผลกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี ในปีนี้เข้าสู่การดำเนินธุรกิจเป็นปีที่ 4 แล้ว จากโรงเชือดไก่ขนาดเล็กได้เปลี่ยนเป็นโรงเชือดไก่ขนาดใหญ่ มีพนักงานร่วมกว่า 400 ราย ที่เป็นกำลังสำคัญในการผลิต เป็นบริษัทหนึ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐาน ปัจจุบันมีอัตราการผลิตอยู่ที่ 80,000 ตัว/วัน ยอดขายกว่า 1,500 ล้านบาท/ปี และคาดว่าจะทะลุ 3,500 ล้านบาท/ปี ในปี 2564
“ทุกวันนี้การทำธุรกิจเงินสดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการเริ่มต้นของสตาร์ ฟู้ดส์ฯ ที่เลือกทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงเชือด เหตุผลหนึ่งก็คือมองว่าเป็นธุรกิจเงินสดที่ซื้อมาขายไป เป็นธุรกิจที่หั่งเช้งเป็นตัวกำหนดหรือตามกลไกตลาด จึงมองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่น่าสนใจที่สุด”
บริหารงานและต้นทุน
ด้วยความที่สตาร์ ฟู้ดส์ฯ เป็นธุรกิจที่จำหน่ายชิ้นส่วนและเนื้อไก่สด ซึ่งเป็นตลาดเดียวกับบริษัทใหญ่ในประเทศ บริษัทจึงเน้นจำหน่ายในสไตล์ของตัวเอง โดยพยายามบริหารต้นทุน และหาตลาดจากฐานผู้บริโภคเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็สามารถผ่านวิกฤตเศรษฐกิจ และสามารถเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยทุกๆ ครั้งที่มีการขยายจะต้องมีการหาตลาดเพื่อรองรับงานขยายอยู่ตลอดเวลา
การทำธุรกิจในปัจจุบัน ทำแล้วค่อนข้างเหนื่อย ยิ่งในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันด้วยแล้วต้องรอบคอบมากยิ่งขึ้น แต่ทางรอดยังมี เช่น การบริหารต้นทุน และการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจ ถามว่าน่ากลัวไหมซึ่งปัจจุบันการแข่งขันค่อนข้างสูง ได้รับคำตอบว่าบริษัท สตาร์ ฟู้ดส์ฯ ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้แข่งกับใคร เพราะสตาร์ ฟู้ดส์ฯ ณ วันนี้แข่งขันกับตัวเอง
“สตาร์ ฟู้ดส์ฯ ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นเกษตรกร ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ใช่เกษตรกร แต่เริ่มจากการบริหารงานภาคปศุสัตว์ในบริษัทใหญ่มาก่อน จึงได้นำเอาประสบการณ์จากการทำงานมาประยุกต์ใช้พร้อมกับเรียนรู้เพิ่มเติมให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์กับธุรกิจของสดตลาดในประเทศ จึงทำให้ธุรกิจดำเนินอยู่ได้อย่างมั่นคง ทุกวันนี้มาไกลได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งมาจากสิ่งที่ได้เห็นภาพใหญ่ของบริษัทใหญ่มาก่อน บวกกับการมองเห็นสภาวะทางด้านตลาด จึงมองเห็นข้อได้เปรียบด้านการบริหารและการจัดการ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ผ่านการเรียนรู้ ผ่านการจัดการและผ่านการคิดวิเคราะห์มามากมาย” คุณศักดิ์ดา กล่าวทิ้งท้ายอย่างภาคภูมิใจ
ขอขอบคุณ : บริษัท สตาร์ ฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด 33 หมู่ 8 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
SPONSORED BY : คลิกเลย
