นายกฯ เจรจาสำเร็จไทยส่งออกวัว แกะ แพะ เพื่อเชือดและเลี้ยง ไปยังซาอุดีฯ ได้แล้ว ยืนยันส่งเสริมมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ไทยต่อเนื่อง พร้อมให้คำแนะนำผู้ประกอบการไทยศึกษาข้อกำหนดการส่งออก เพิ่มมูลค่าการค้า ไทย-ซาอุดีฯ
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการดูแลพี่น้องปศุสัตว์ไทย ทั้งหาตลาดส่งออกเพิ่มเติมและ มุ่งหน้ายกระดับสินค้าปศุสัตว์ไทยให้มีคุณภาพทัดเทียมมาตรฐานนานาประเทศ จนเห็นเป็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อซาอุดีอาระเบียได้อนุญาตให้นำเข้าปศุสัตว์มีชีวิต (วัว แกะ แพะ) เพื่อเชือดและเลี้ยงจากประเทศไทยได้ โดยให้ใช้หนังสือรับรองสุขภาพสัตว์เพื่อการส่งออกปศุสัตว์มีชีวิตที่ได้รับอนุมัติจากการหารือระหว่าง 2 ประเทศ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดความร่วมมือทางด้านการค้าการลงทุน ระหว่างกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยจากความคืบหน้าล่าสุด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากซาอุดีอาระเบีย ได้แจ้งมายังรัฐบาลไทยถึงการที่ทางซาอุดีอาระเบีย ได้อนุญาตให้ประเทศไทยสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์มีชีวิต ได้แก่ วัว แกะ แพะเพื่อเชือดและเลี้ยง ไปยังซาอุดีอาระเบียได้ภายใต้มาตรฐานการใช้หนังสือรับรองสุขภาพสัตว์เพื่อการส่งออกปศุสัตว์มีชีวิต ที่ได้รับอนุมัติจากการหารือระหว่าง 2 ประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ที่ทางซาอุดีอาระเบีย ได้ให้สิทธิประเทศไทยสามารถส่งออกไก่สด ไก่แปรรูป ไก่ปรุงสุก ไปยังซาอุดีอาระเบียได้
เนื่องจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ไปยังซาอุดีอาระเบีย ค่อนข้างมีข้อกำหนดที่เข้มงวด เช่นห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ผ่านการแช่เย็น แช่แข็ง บรรจุกระป๋อง จากประเทศที่มีการเกิดโรคระบาดในสัตว์ รวมถึงการผลิตต้องเป็นไปตามหลักศาสนา และถูกต้องตามมาตรฐานของ GCC Standardization Organization (GSO) รวมถึงต้องมีใบรับรองสุขภาพของสัตว์ที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาของซาอุดีอาระเบีย (Saudi Food and Drug Authority :SFDA) จึงแนะนำให้ผู้ประกอบการไทยศึกษาข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดก่อนทำการส่งออก ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ของไทย พร้อมเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางและโอกาสของการส่งออกวัว แกะ และแพะ ของไทยไปตลาดของประเทศในอ่าวอาหรับอื่นๆ ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์มีชีวิต สามารถขอรับใบอนุญาตนำเข้าผ่านแพลตฟอร์ม NAAMA (https://naama.sa/Home/ServiceSearch) ของกระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ำ และการเกษตรแห่งซาอุดีอาระเบีย หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมศัตรูพืชและโรคสัตว์แห่งชาติ (National Centre for Prevention and Control of Pests and Animal Diseases) ซาอุดีอาระเบีย หมายเลขโทรศัพท์ (0502374064) และอีเมล์ baltureif@weqaa.gov.sa
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพของผลิตภัณฑ์สินค้าปศุสัตว์ไทย ใช้โอกาสจากความสัมพันธ์ที่ดีกับมิตรประเทศ ทั่วโลก ซึ่งการที่ซาอุดีอาระเบียให้สิทธิในการส่งออกสินค้าปศุสัตว์เพิ่มเติมในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จจากความริเริ่มของนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนตุลาคม 2566 และได้ส่งต่อการดำเนินนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศผลักดันร่วมกัน ด้วยต้องการผลักดันประโยชน์ด้านการค้าการลงทุนเพื่อส่งต่อประโยชน์นั้นให้พี่น้องคนไทย” นายชัย กล่าว