ราคาไข่ไก่ขยับขึ้นถึงสองครั้งในช่วงเวลาสองสัปดาห์ โดยขยับขึ้นครั้งละ 20 สตางค์ ทำให้ปัจจุบันราคาไข่ไก่ต่อฟองอยู่ที่ 3.60 บาท แล้วเหตุปัจจัยใดส่งผลกระทบให้ราคาไข่ไก่ขยับสูงขึ้น ลองดูเหตุผลและความจริงในมุมของเกษตรกรคนเลี้ยงไก่ไข่ ที่รู้สึกได้เลยว่าการเลี้ยงไก่ทุกวันนี้ไม่ง่ายเลย
ต้องยอมรับว่า “ไข่ไก่” เป็นสินค้าอ่อนไหวที่สุดชนิดหนึ่ง คำว่าอ่อนไหวคือจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายจากปัจจัยกระทบมากมาย ทั้งสภาพอากาศ เทศกาลต่าง ๆ กินเจ ปิดเทอม เปิดเทอม ฯลฯ หรือแม้กระทั่งความตื่นตระหนกจากเหตุการณ์การเมือง
สถานการณ์ปัจจุบันเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนที่ได้ชื่อว่าเป็นเดือนที่อากาศร้อนที่สุดของปี อากาศที่ร้อนอบอ้าว หรืออากาศแปรปรวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน ส่งผลกระทบอย่างมากกับ “แม่ไก่ไข่” ผู้ทำหน้าที่ผลิตไข่ไก่ เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลให้ไก่เครียดและผลิตไข่ได้น้อยลง เช่น ปกติไก่ไข่ 100 ตัว เคยให้ไข่ 80% เจออากาศร้อนจัดเช่นนี้ ไก่ไข่ให้ไข่ลดลงเหลือเพียง 70% เป็นต้น ปริมาณลดยังไม่พอ ขนาดของไข่ไก่ยังลดลงด้วย จากที่เคยได้ไข่เบอร์ 0 ถึงวันละ 10 แผง ก็เหลือเพียงแผงครึ่ง สวนทางความต้องการบริโภคในช่วงเทศกาล
แน่นอนว่าปัจจัยด้านต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้นตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของสัตว์ภายในฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันโรคหรือการดูแลสภาพแวดล้อมในฟาร์ม หลายฟาร์มจำต้องซื้อน้ำเป็นคันรถเข้ามาคลายร้อน ประกอบกับการใช้ไฟฟ้าในการเปิดพัดลมควบคุมอุณหภูมิ ล้วนเป็นต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นมากในช่วงนี้
การขยับราคาครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อแสวงหากำไรสูงสุด เกษตรกรไม่มีใครอยากขายของแพง และการขยับราคาแต่ละครั้ง เป็นเพียงการประคองตนเองให้สามารถดำเนินการเลี้ยงสัตว์ต่อไปได้ เกษตรกรแทบทุกคนล้วนพยายามหาวิธีลดต้นทุนในฟาร์มและหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อภาวะสภาพอากาศกลับมาอยู่ในระดับปกติ ความเครียดของแม่ไก่ลดลง ผลผลิตจะกลับมาในอัตราที่เหมาะสม ราคาไข่ก็มีแนวโน้มที่ค่อยๆ ปรับตัวเข้าที่เข้าทางสู่ระดับที่ผู้บริโภคสามารถจับจ่ายได้ตามเดิม
เรื่องราวของเกษตรกรที่ต้องเผชิญทุกสภาวการณ์ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เป็นอีกมุมหนึ่งที่สะท้อนถึงความอดทนและความเป็นมืออาชีพ ขณะที่ปัญหาความผันผวนของราคายังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การรับรู้ถึงปัจจัยเหล่านี้น่าจะช่วยให้ทั้งผู้บริโภคและเกษตรกรมีความเข้าใจกันมากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อเหตุปัจจัยต่าง ๆ คลี่คลายลง ปริมาณผลผลิตสอดคล้องกับความต้องการบริโภค เกิดสมดุลอุปสงค์-อุปทาน ราคาจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม … เกษตรกรอยู่ได้ ผู้บริโภคไม่เดือดร้อน./
อิสระ คงยินดี