ปางศิลาทอง เยี่ยมชมโรงเชือดโคขุน 5 แสนตัวต่อปี เมิงล่าเฉิงคัง ประเทศจีน ชี้โอกาสของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อไทย
นายสมประสงค์ ยอดยิ่ง ประธานสหกรณ์โคขุนฯ ปางศิลาทอง เผยว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา สหกรณ์ฯ ปางศิลาทอง , สหกรณ์การเกษตร และปศุสัตว์จังหวัดกำแพงเพชร ได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจการโรงเชือดโคขุน 5 แสนตัวต่อปี เมิงล่าเฉิงคัง ประเทศจีน โดยการแนะนำชักชวนของสมาคมทหารผ่านศึกแห่งประเทศไทย ซึ่งได้เดินทางไปสำรวจช่องทางล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว จากการพูดคุยปรึกษาอย่างเป็นมิตรต่อกันนั้น ผู้จัดการโรงงานเฉิงคัง ได้ให้ข้อมูลว่า กิจการโรงงานเชือดโคขุน เมิงล่าเฉิงคัง เป็นกิจการรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีโควต้านำเข้าโคขุนและกระบือ จาก สปป.ลาว ปีละ 500,000 ตัว โดยมีกำลังการเชือด 400 ตัวต่อ 8 ชั่วโมง มีพนักงานฝ่ายการผลิตและฝ่ายบริหาร กว่า 300 คนต่อกะ
ทั้งนี้ยังมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการเชือดโคในรูปแบบอุตสาหกรรม โดยต้องการซื้อโคขุนและกระบือภายในปีนี้ประมาณ 50,000 – 100,000 ตัว หรือประมาณ 150 – 300 ต่อวัน มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีผู้แทนสหกรณ์ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนไทยมาเยี่ยมชม และรับทราบข้อมูลตรงจากเฉิงคัง เพื่อไปวางแผนประสานการผลิตโคขุน โดยสรุปดังนี้
1. เป็นโคขุนลูกผสมยุโรป หรือบราห์มัน และกระบือ อายุไม่เกิน 3 ปี น้ำหนักไม่น้อยกว่า 450 กิโลกรัม และไม่เกิน 1,000 กิโลกรัม
2. เป็นโคขุน และกระบือ จากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน GAP สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ไม่มีร่องรอยโรคต้องห้ามและสารเร่งเนื้อแดง
3. เป็นโคสัญชาติ สปป.ลาว อาจเป็นโคขุนจากไทย และผ่านการเลี้ยงขุนและกักใน สปป.ลาว ตามข้อตกลงระหว่าง จีน และ สปป.ลาว 75 – 150 วัน
4. เป็นการซื้อขายผ่านผู้ซื้อขายใน สปป.ลาว ซึ่งอาจมีหลายราย ตามที่จะได้ทราบจากนโยบายการบริหารใน เดือนเมษายน 2567 นี้ และจะเริ่มเดินสายการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เมื่อทุกตัวแปรพร้อม
5. แนะนำให้ประสานงานกับ หนึ่งในผู้ที่อาจรับเป็นตัวแทนซื้อขายใน สปป.ลาว คือ บริษัท กสิกรรมเขตเศรษฐกิจ พิเศษสามเหลี่ยมคำ สปป.ลาว (คิงโรมัน) ซึ่ง สหกรณ์ฯ ได้เข้าพบพูดคุยแนะนำตัวเพื่อประสานและดูงานคอก เลี้ยงขุนโคของบริษัท กสิกรรมเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ แล้วเมื่อ 31 มีนาคม 2567
อีกทั้งได้เชิญ ผู้บริหารหรือตัวแทนมาเยี่ยมชมกิจการของสหกรณ์ฯ ในวันที่ 24 เมษายน 2567 นี้ ซึ่งการทำงานการตลาดเชิงรุกถึงผู้ซื้อครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบาย “การตลาดนำการผลิต” และ “เอกชนนำ รัฐหนุน” ของฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และ ฯพณฯ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และเพื่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนของประเทศไทย
