ข่าว (News) สุกร (Pig)

ราคาประกาศหมูหน้าฟาร์ม สิ้นมนต์ขลัง? ทำไมถึงแตกต่าง

(วันที่ 12 กันยายน 2567) อาจารย์ศักดิ์ชัย โตภาณุรักษ์ ภาควิชาสัตวบาล คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กโดยตั้งข้อสงสัยว่า ราคาประกาศ…ทำไมไม่ขลัง?

ทำไมราคาหมูบ้านขายได้ไม่เท่าหมูฟาร์ม ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้วหมูฟาร์มก็ขายได้ราคาไม่เท่ากัน รวมทั้งแต่ละพื้นที่ก็ขายได้ในราคาที่แตกต่างกัน

ส่วนที่ 1. ระหว่างฟาร์มกับฟาร์ม คือ ความสม่ำเสมอและคุณภาพซาก

ส่วนที่ 2. ระหว่างฟาร์มกับหมูบ้าน คือ ความสม่ำเสมอ คุณภาพซากและความต่อเนื่องของจำนวนหมูที่ส่งตลาด

ลองเปรียบเทียบภาพจากคลิปในโพสต์กับหมูทั่วไปหรือหมูที่เราเลี้ยงอยู่ว่า ต่างจากของฟาร์มฟาร์มที่ขาย 80-85 และที่ผ่านมาขาย +5 ถึง +10 จากราคาประกาศมาตลอด หรือไม่ ?

การที่ฟาร์มนี้ทำได้ เพราะ “หมูขุน” ที่ใช้มาจากสายพันธุ์ที่ใช้พัฒนามายาวนาน นานกว่า 30 ปี ฟาร์มนี้ไม่เคยเปลี่ยนพันธุ์ ไม่กระทบ-ไม่เสียหายจาก ASF ที่สำคัญ เขียงจับมานาน เคยไปจับที่อื่นแต่สุดท้ายต้องกลับมาจับที่เดิม เพราะทำแล้วได้กำไร!

วันนี้มีอยู่ 3 กลุ่มที่รอราคาประกาศ* คือ

(*ราคาประกาศ วันพระที่ 10/09/2567 ราคาหมูขุนหน้าฟาร์มอยู่ที่ 72-83) [1] 

กลุ่มที่ 1. “ขายได้ใกล้เคียง” ราคาประกาศ? เป็นกลุ่มฟาร์มรายใหญ่ที่พยายามดันราคา ซึ่งการดันราคาก่อนการเกิด ASF และหลังการเกิด ASF มันต่างกันมาก ใช้ความรู้สึกหรือสูตรเดิม ๆ ที่มองแค่จำนวนแต่ไม่มองคุณภาพซากไม่ได้ ซึ่งลึก ๆ กลุ่มนี้ก็ยังมีปัญหาเรื่องความสม่ำเสมอและซาก!

กลุ่มที่ 2. “ขายได้ต่ำกว่า” ราคาประกาศ จากราคาประกาศของภาคตะวันตกอยู่ที่ 72-74 แต่วานนี้ 11/09/2567 ที่กาญจนบุรี มีผู้เลี้ยงหมูโพสต์ว่าขาย 64 ส่วนใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มนี้เป็น ผู้เลี้ยงรายย่อยกับฟาร์มหมูคุณภาพไม่ดี ซากแย่ รวมทั้งหมูเย็นจาก “หมูป่วย” หรือ “หนี ASF” และหมูที่ “ดันราคา” ไม่ขึ้นของกลุ่มที่ 1. ด้วย

กลุ่มที่ 3. “ขายได้สูงกว่า” ราคาประกาศ เพราะหมูคุณภาพสูง ความสม่ำเสมอสูง ซากดี หมูออกสม่ำเสมอ ก็รอแค่บวกราคาเท่านั้น เพราะเขียงเชื่อมั่นว่า “ทำแล้วได้กำไร” ส่วนใครยอมซื้อราคานี้ ต้องไปสืบเสาะเอาเอง หากันไม่ยาก

นี่คือความต่างของแต่ละกลุ่มที่ 1. รอว่า “เมื่อไรราคาประกาศจะขลัง” ทั้งที่คุณภาพหมู “ของประเทศ” ไม่ได้ กลุ่มที่ 2. รอว่า “ฟาร์มหรือหมูตัวเอง” เมื่อไรจะขายได้ใกล้ราคาประกาศทั้งที่คุณภาพหมู “ของฟาร์ม” ไม่ได้ ส่วนกลุ่มที่ 3. เป็นกลุ่มที่คนส่วนใหญ่คิดว่า “ไม่มีอยู่จริง” เลยเอาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง !

สำหรับต้นเหตุสำคัญของราคาหมูขุนมาจาก ความสม่ำเสมอสูง ซากดี ที่เกิดจากพันธุ์และการใช้พันธุ์ของฟาร์มและความเชื่อมั่นของเขียง !

ส่วนราคาหมูฟาร์ม-หมูบ้าน ราคาไม่เท่ากัน ที่มีความเห็นว่า “มาจาก น้ำหนักสูญเสียจาก ต้นทาง-ปลายทางมากนั้น เป็นเพียง “ผล” ไม่ใช่ “เหตุ” (ผล) หลัก !

เพราะสายพันธุ์ดี เป็น “ต้นเหตุหลัก” ที่ส่ง “ผล” ทำให้คุณภาพซากดี น้ำหนักสูญเสียระหว่างขนส่งต่ำ และ Drip loss ต่ำ ภายใต้การจัดการเหมือนกันรวมทั้งส่วนของ transportation management ที่เหมือนกัน !

หากสภาพหมูในฟาร์มและในประเทศหลังการเกิด ASF หากเรามองภาพออก ก็จะเข้าใจได้เองว่า ทำไมผมถึงใช้คำว่า “วิกฤตราคาหมูอีกนาน”

ข้อมูลเพิ่มเติม

[1] https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1103156115148721&id=100063630293244

Pasusart News
No.1 Livestock Online Magazine in Thailand
https://pasusart.com